วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ภาพลวงตา


ภาพลวงตา หมายถึงภาพที่หลอกตาให้มองเห็นและรับรู้ผิดพลาดไปจากความจริง ส่วนใหญ่สายตาจะรับรู้ผิดพลาดเกี่ยวกับรูปทาง ขนาด และ สี

ตาของทุกคน บางครั้งไม่ได้เห็นสิ่งที่เป็นอยู่จริง และสามารถหลอกได้ไม่ยากนัก ก่อนที่จะกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดภาพลวงตา ขอกล่าวถึงการทำงานประสานกันระหว่างตาและสมองดังนี้ ตาและสมองทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดมาก โดยตาเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่รับภาพเข้ามา ส่วนสมองทำงหน้าที่ประมวลผล และวิเคราะห์ว่าภาพที่รับเข้ามานั้นเป็นภาพอะไร มีสีอะไร เป็นภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่ง เมื่องแสงจากวัตถุกระทบเลนส์ตา จะเกิดการหักเหและปรากฏเป็นภาพจริง

สาเหตุของการเกิดภาพลวงตา

1. เกิดจากความสามารถในการกวาดสายตาในแนวดิ่งและแนวราบไม่เท่ากัน

2. เกิดจากตาสองข้างส่งข้อมูลที่แตกต่างไปยังสมอง
3. เกิดจากการเติมสิ่งหนึ่งสิ่งใด ( เช่นภาพแรกที่จริงๆแล้วเป็นเส้นขนาน )

4. เกิดจากการเกิดมุมหรือตัดกันของเส้น

5. เกิดจากการเปรียบเทียบ หรือขนาดสัมพัทธ์ (Relative size )
7. เกิดจากการมองเห็นภาพด้วยนัยน์ตาทั้งสองข้าง
การ ชี้นิ้วจากมือทั้งสองข้างเข้าหากันในระดับสายตาห่างจากนัยน์ตาประมาณ 25 เซ็นติเมตร แล้วก็ใช้นัยน์ตาทั้งสองข้างมองไปที่ปลายนิ้วทั้งสองแล้วค่อยๆเลื่อนนิ้ว เข้าหากัน
จะเกิดภาพดังรูป

8. เกิดจากเซลล์ประสาทมีขีดจำกัดในการรับรู้
เราจะเห็นภาพลวงตาสีเทา บริเวณจุดตัดของตารางเกิดจากเซลล์ประสาทมีขีดจำกัดในการรับรู้ ภาพแบบนี้เราเรียกว่า ( Grid illusion )
คิดค้นโดย ลูดิมาร์ เฮอร์มันน์ ในปี พ.ศ. 2413

9. เกิดจากสมบัติของแสง

ภาพลวงตาที่เกิดจากการสะท้อนของแสงทำให้เห็นภาพที่มีขนาดใหญ่กว่าวัถุของจริง


______________ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ติดตามผลงานของผมนะคัฟฟ____________
และขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกๆๆคอมเม้นที่เพื่อนๆได้กลั้นจากใจมาเป็คำพูด
กระผมทราบซึ้งใจเป็นอย่างมาก.........และขอให้ติดตามผลงานของผมไปตลอดการนะขอรับ
จัดทำโดย
คุณากร โปธาคำ

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แสง


เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องอาศัยตัวลาง และมีการเคลื่อนที่แนวเส้นตรงในตัวกลางชนิดอื่น ๆ จะเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางแต่ละชนิดด้วยความเร็วไม่เท่ากัน ตัวกลางใดมีความหนาแน่นมากแสงจะเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางนั้นด้วยความเร็วน้อย ถ้าแสงเคลื่อนที่ผ่านไม่ได้ก็เป็นเพราะวัตถุมีการดูดกลืน สะท้อนแสง หรือการแทรกสอดของแสง นั้นคือ คุณสมบัติของแสงที่จะกล่าวในหน่วยนี้
การสะท้อนแสง (Reflection) การสะท้อนแสง หมายถึง การที่แสงไปกระทบกับตัวกลางแล้วสะท้อนไปในทิศทางอื่นหรือสะท้อนกลับมาทิศทางเดิมการสะท้อนของแสงนั้นขึ้นอยู่กับพื้นผิวของวัตถุด้วยว่าเรียบหรือหยาบโดยทั่วไปพื้นผิวที่เรียบและมันจะทำให้มุมของแสงที่ตกกระทบมีค่าเท่ากับมุมสะท้อนตำแหน่งที่แสงตกกระทบกับแสงสะท้อนบนพื้นผิวจะเป็นตำแหน่งเดียวกันดังรูปที่ 4.1 ก. ลักษณะของวัตถุดังกล่าว เช่น อลูมิเนียมขัดเงาเหล็กชุบโครเมียม ทอง เงินและกระจกเงา เป็นต้น แต่ถ้าหากวัตถุมีผิวหยาบ แสงสะท้อนก็จะมีลักษณะกระจายกันดังรูปที่ 4.1 ข. เช่น ผนังฉาบปูนกระดาษขาว โดยทั่วไปวัตถุส่วนใหญ่จะเป็นแบบผสมขึ้นอยู่กับผิวนั้นมีความมันหรือหยาบมากกว่า จะเห็นการสะท้อนแสงได้จากรูป 4.1 ก. และรูปที่ 4.1 ข.
















รูป ก.การสะท้อนแสงบนวัตถุผิวเรียบ รูป ข. การสะท้อนแสงผิวขรุขระ
กฎการสะท้อนแสง 1. รังสีตกกระทบ เส้นปกติและรังสีสะท้อนย่อมอยู่บนพื้นระนาบเดียวกัน 2. มุมในการตกกระทบย่อมโตเท่ากับมุมสะท้อน







สดงกฎของการสะท้อนแสง
การหักเหของแสง (Refraction)
การหักเห หมายถึง การที่แสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่งทำให้แนวลำแสงเกิดการเบี่ยงเบนไปจากแนวเดิม เช่น แสงผ่านจากอากาศไปยังน้ำ ดังแสดงในรูป
รูปแสดงลักษณะการเกิดหักเหของแสง
สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการหักเหของแสง - ความถี่ของแสงยังคงเท่าเดิม ส่วนความยาวคลื่น และความเร็วของแสงจะไม่เท่าเดิม - ทิศทางการเคลื่อนที่ของแสงจะอยู่ในแนวเดิมถ้าแสงตำตั้งฉากกับผิวรอยต่อของตัวกลางจะไม่อยู่ในแนวเดิม ถ้าแสงไม่ตกตั้งฉากกับผิวรอยต่อของตัวกลาง ตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของการหักเหของแสงเช่น แผ่นปิดหน้าโคมไฟ ซึ่งเป็นกระจกหรือพลาสติก เพื่อบังคับทิศทางของแสงไฟที่ออกจากโคมไปในทิศทางที่ต้องการ จะเห็นว่าแสงจากหลอดไฟจะกระจายไปยังทุกทิศทางรอบหลอดไฟแต่เมื่อผ่านแผ่นปิดหน้าโคมไฟแล้ว แสงจะมีทิศทางเดียวกัน เช่นไฟหน้ารถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ดังรูปที่
แสงที่ผ่านโคมไฟฟ้าหน้ารถยนต์มีทิศทางเดียวกัน
การกระจายแสง (Diffusion)

การกระจายแสง หมายถึง แสงขาวซึ่งประกอบด้วยแสงหลายความถี่ตกกระทบปริซึมแล้วทำให้เกิดการหักเหของแสง 2 ครั้ง (ที่ผิวรอยต่อของปริซึม ทั้งขาเข้า และขาออก) ทำให้แสงสีต่าง ๆ แยกออกจากกันอย่างเป็นระเบียบเรียงตามความยาวคลื่นและความถี่ ที่เราเรียกว่า สเปกตรัม (Spectrum) รุ้งกินน้ำ เป็นการกระจายของแสง เกิดจากแสงขาวหักเหผ่านผิวของละองน้ำ ทำให้แสงสีต่าง ๆ กระจายออกจากกันแล้วเกิดการสะท้อนกลับหมดที่ผิวด้านหลังของละอองน้ำแล้วหักเหออกสู่อากาศ ทำให้แสงขาวกระจายออกเป็นแสงสีต่าง ๆ กัน แสงจะกระจายตัวออกเมื่อกระทบถูกผิวของตัวกลาง เราใช้ประโยชน์จากการกระจายตัวของลำแสง เมื่อกระทบตัวกลางนี้ เช่น ใช้แผ่นพลาสติกใสปิดดวงโคมพื่อลดความจ้าจากหลอดไฟหรือ โคมไฟชนิดปิดแบบต่าง ๆ
ภาพรุ้งกินน้ำ
การทะลุผ่าน (Transmission) การทะลุผ่าน หมายถึงการที่แสงพุ่งชนตัวกลางแล้วทะลุผ่านมันออกไปอีกด้านหนึ่ง โดยที่ความถี่ไม่เปลี่ยนแปลงวัตถุที่มีคุณสมบัติการทะลุผ่านได้ เช่น กระจก ผลึกคริสตัล พลาสติกใส น้ำและของเหลวต่าง ๆ
การดูดกลืน (Absorbtion) การดูดกลืน หมายถึง การที่แสงถูกดูดกลืนหายเข้าไปในตัวกลางดยทั่วไปเมื่อมีพลังงานแสงถูกดูดกลืนหายเข้าไปในวัตถุใด ๆเช่น เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องต้มน้ำพลังงานแสง และยังนำคุณสมบัติของการดูดกลืนแสงมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวจะดูดแสงน้อยกว่าสีดำ จะเห็นได้ว่าเวลาใส่เสื้อผ้าสีดำ อยู่กลางแดดจะทำให้ร้อนมากกว่าสีขาว
การแทรกสอด (Interference) การแทรกสอด หมายถึง การที่แนวแสงจำนวน 2 เส้นรวมตัวกันในทิศทางเดียวกัน หรือหักล้างกัน หากเป็นการรวมกัน ของแสงที่มีทิศทางเดียวกัน ก็จะทำให้แสงมีความสว่างมากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหักล้างกัน แสงก็จะสว่างน้อยลด การใช้ประโยชน์จากการสอดแทรกของแสง เช่น กล้องถ่ายรูปเครื่องฉายภาพต่าง ๆ และการลดแสงจากการสะท้อน ส่วนในงานการส่องสว่าง จะใช้ในการสะท้อนจากแผ่นสะท้อนแสง
สรุป คุณสมบัติต่าง ๆ ของแสงแต่ละคุณสมบัตินั้น เราสามารถนำหลักการมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น คุณสมบัติของการสะท้อนแสงของวัตถุ เรานำมาใช้ในการออกแบบแผ่นสะท้อนแสงของโคมไฟ การหักเหของแสงนำ มาออกแบบแผ่นปิดหน้าโคมไฟ ซึ่งเป็นกระจก หรือพลาสติกเพื่อบังคับทิศทางของแสงไฟ ที่ออกจากโคมไปในทิศที่ต้องการ การกระจายตัวของลำแสงเมื่อกระทบตัวกลางเรานำมาใช้ประโยชน์ เช่นใช้แผ่นพลาสติกใสปิดดวงโคมเพื่อลดความจ้าจากหลอดไฟ ต่าง ๆ การดูดกลืนแสง เรานำมาทำ เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ครื่องต้มพลังงานแสง และการแทรกสอดของแสง นำมาใช้ประโยชน์ในกล้องถ่ายรูป เครื่องฉายภาพต่าง ๆ จะเห็นว่าคุณสมบัติแสงดังกล่าวก็ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์เราทั้งนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กล้องส่องทางไกล





1..กล้องส่องทางไกล

เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถมองวัตถุระยะใกล้ได้ มีใช้กันหลายหลายตั้งแต่ทางวิทยาศาสตร์จนถึงทางนันทนาการ ตัวอย่างของกล้องที่นิยมใช้ได้แก่ กล้องโทรทรรศน์ กล้องสองตา หรือกล้องดูนก

(โทษที่นะครับเนื้อหาไม่ค่อยเยอะเท่ารัย.....แต่ช่วยเม้นห้ายทีไว้วันหน้าจาเอามาเพิ่ม)